| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
|
วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ดูดวงตามปีเกิด
ดูดวงกันหน่อย !!
| |||
| |||
|
วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551
งานภาษาไทย : พระเวชสันดรชาดก
เมื่อครั้งอดีตกาลที่ล่วงมา นครสีพีรัฐบุรีนั้นมีพระราชาพระนามสีพีราช ทรงครองเมืองโดยทศพิธราชธรรม พระราชาทรงยกบัลลังก์ให้พระโอรสขึ้นเสวยราชย์แทน เมื่อเจริญวัยสมควรแล้ว พระราชโอรสมีพระนามว่า "สัญชัย" และได้อภิเษกกับพระนางผุสดี พระธิดาแห่งราชากรุงมัททราชพรจากภพสวรรค์แต่ปางก่อนนั้นผุสดีเทวีเสวยชาติเป็นอัครมเหสีของพระอินทร์ เมื่อจะสิ้นพระชนมายุจึงขอกัณฑ์ทศพรจากพระอินทร์ได้ ๑๐ ข้อ ทั้งยังเคยโปรยผงจันทร์แดงถวายพระวิปัสสีพุทธเจ้า และอธิฐานให้ได้เกิดเป็นมารดาพระพุทธเจ้าด้วย พร ๑๐ ข้อนั้นมีดังนี้ ๑. ขอให้เกิดในกรุงมัททราช แคว้นสีพี๒. ขอให้มีดวงเนตรคมงามและดำขลับดั่งลูกเนื้อทราย๓. ขอให้คิ้วคมขำดั่งสร้อยคอนกยูง๔. ขอให้ได้นาม "ผุสดี" ดังภพเดิม๕. ขอให้มีพระโอรสเกริกเกียรติที่สุดในชมพูทวีป๖. ขอให้พระครรภ์งาม ไม่ป่องนูนดั่งสตรีสามัญ๗. ขอให้พระถันเปล่งปลั่งงดงามไม่ยานคล้อยลง๘. ขอให้เส้นพระเกศาดำขลับตลอดชาติ๙. ขอให้ผิดพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำธรรมชาติ๑๐. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษที่ต้องอาญาประหารได้
อานิสงส์ผู้ใด บูชากัณฑ์ทศพร ผู้นั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีเป็นที่ชอบเนื้อเจริญใจ บุรุษจะได้ภรรยาเป็นที่ต้องประสงค์อีกเช่นเดียวกัน จะได้บุตรหญิงชายเป็นคนว่านอนสอนง่ายมีรูปกายงดงาม มีความประพฤติดีกิริยาเรียบร้อยทุกประการฯ
ข้อคิดประจำกัณฑ์การทำบุญจักให้สำเร็จสมประสงค์ต้องอธิษฐานจิต ตั้งเป้าหมายชีวิตที่ตนปรารถนาไว้ ความปรารถนาที่จะสำเร็จสมดังตั้งใจ ผู้นั้นต้องมีศีลบริบูรณ์ กล่าวคือ ๑. ต้องกระทำความดี๒. ต้องรักษาความดีนั้นไว้๓. หมั่นเพิ่มพูนความดีให้มากยิ่งขึ้น
กัณฑ์หิมพานต์
ได้มาเกิดเป็นอัครชายา ของพระราชาแคว้นสีพีรัฐสมดั่งคำพระอินทร์นั้น พระนางยังมีพระสิริโฉมงดงามตามคำพรอีกด้วย ครั้งเมื่อทรงพระครรภ์ครบ ๑๐ เดือน พระอินทร์ก็ทูลอาราธนาพระโพธิสัตว์มาจุติในครรภ์พระนาง ประสูติพระกุมาร วันหนึ่งพระนางผุสดีทรงทูลขอพระราชาประพาสพระนคร เมื่อขึ้นสีวิกาเสลี่ยงทองเสด็จสัญจร ไปถึงตรอกทางของเหล่าพ่อค้าก็เกิดปวดพระครรภ์ และทรงประสูติพระราชาโอรสกลางตรอกนั้น พระราชกุมารจึงได้พระนามว่า "เวสสันดร" ในวันที่พระราชกุมารทรงประสูติ พญาช้างฉัททันต์ได้นำลูกช้างเผือกเข้ามาในโรงช้างต้น ช้างเผือกคู่เผือกคู่บารมีนั้นมีนามว่า "ปัจจัยนาเคนทร์" พระราชกุมารเวสสันดร ทรงบริจาคทานตั้งแต่ ๔-๕ ชันษา ทรงปลดปิ่นทองคำ และเครื่องประดับเงินทองแก้วเพชรให้แก่นางสนมกำนัลทั่วทุกคนถึง ๙ ครั้ง เพื่อมุ่งหวังพระโพธิญาณภายภาคหน้า เมื่อทรงเจริญชันษาได้ ๙ ปี ก็ทรงตั้งจิตอธิษฐานว่าจะบริจาคเลือดเนื้อ และดวงหทัยเพื่อมุ่งพระโพธิญาณในกาลข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ครั้นถึงวัย ๑๖ พรรษา ก็แตกฉานในศิลปวิทยา ๑๘ แขนง ทรงได้ขึ้นครองราชย์และอภิเษกกับพระนางมัทรี และมีพระโอรสกับพระธิดาพระนามว่า "ชาลีกุมาร" และ "กัณหากุมารี" อันหมายถึงห่วงทองบริสุทธิ์ เวลาต่อมาเมืองกลิงครัฐเกิดกลียุค ฝนแล้งผิดฤดูกาลข้าวยากหมากแพงเป็นที่ยากเข็ญทุกข์ร้อนไปทั่ว ชาวนครมาชุมนุมร้องทุกข์หน้าวังกันแน่นขนัด พระเจ้ากลิงคราชจึงทรงถือศีล ๗ วัน เพื่อขอบุญกุศลช่วย ทว่าฝนฟ้าก็ยังแล้งหนัก อำมาตย์จึงทูลให้ทรงขอช้างเผือกแก้วปัจจัยนาเคนทร์ของพระเวสสันดร ด้วยว่าพระเวสสันดรกษัตริย์สีพีรัฐนั้นขี่ช้างคู่บารมีไปหนใด ก็มีฝนโปรยปรายชุ่มชื้นไปทั่วแคว้น พระเจ้ากลิงคราชจึงส่ง ๘ พราหมณ์ไปทูลขอช้างแก้วจากพระเวสสันดร เมื่อได้ช้างแก้วจากพระเวสสันดรแล้ว พราหมณ์ก็ขี่ช้างออกจากกรุง บรรดาชาวนครเห็นช้างพระราชาก็กรูกันเข้าล้อม และตะโกนด่าทอจะทำร้ายพราหมณ์ทั้ง ๘ คน แต่พราหมณ์ตวาดตอบว่า พระเวสสันดรพระราชทานช้างให้พวกตนแล้ว เมื่อพราหมณ์นำช้างแก้วไปถึงเมือง ฝนฟ้าก็โปรยปรายลงมาเป็นที่ยินดีทั้งแคว้น แต่ในกรุงสีพีนั้นกลับอลหม่าน มหาชนต่างมาชุมนุมที่หน้าพระลานร้องทุกข์พระเจ้ากรุงสัญชัยว่า พระเวสสันดรยกพระยาคชสารคู่บ้านเมืองให้คนอื่น ผิดราชประเพณี เกรงว่าอีกต่อไปภายหน้าอาจยกเมืองให้คนอื่นก็ได้ ขอให้เนรเทศพระเวสสันดรออกจากนครเถิด
อานิสงส์
ผู้ใดบูชากัณฑ์หิมพานต์ย่อมได้สิ่งปรารถนาทุกประการ ครั้นตายแล้วได้ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยสมบัติอันมโหฬาร มีบริวารแวดล้อมบำรุงบำเรออยู่เป็นนิตย์ จุติจากสวรรค์แล้วจะลงมาเกิดในตระกูลขัตติยะมหาศาล หรือตระกูลพราหมณ์มหาศาล อันบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร บริวารมากมายนานาประการ เช่น โค กระบือ ช้าง ม้า รถ ยานพาหนะจะนับจะประมาณมิได้ ประกอบด้วยสุขกายสบายใจทุกอิริยาบถฯ
ข้อคิดประจำกัณฑ์
๑. คนดีเกิดมานำพาโลกให้ร่มเย็น
๒. โลกต้องการผู้เสียสละ มิฉะนั้นหายนะจะบังเกิด
๓. การทำดีย่อมมีอุปสรรค "มารไม่มีบารมีไม่มา มารยิ่งมาบารมียิ่งแก่กล้า"
๔. จุดหมายแห่งการเสียสละ อยู่ที่พระโพธิญาณมิหวั่นไหวแม้จะได้รับทุกข์
กัณฑ์ทานกัณฑ์
พระเจ้ากรุงสัญชัยจำต้องเนรเทศพระราชโอรสด้วยเสียพระทัยนักพระนางผุสดีทูลขออภัยโทษก็มิเป็นผลสำเร็จ พระเวสสันดรทูลลาพระมารดาพระบิดา และขอบริจาคทานให้พิธีสัตตสตกมหาทาน คือ ช้าง ม้า โคนม รถม้า ทาสและทาสี อย่างละ ๗๐๐ บริจาคให้คนทั่วไป
สัตตสตกมหาทานนั้น คือ
ช้าง ๗๐๐ เชือก
ม้า ๗๐๐ ตัว
โคนม ๗๐๐ ตัว
รถม้า ๗๐๐ คัน
นารี ๗๐๐ นาง
ทาส ๗๐๐ คน
ทาสี ๗๐๐ คน
ผ้าอาภรณ์ ๗๐๐ ชิ้น
เสด็จออกจากนครพระนางมัทรีพาพระโอรสและพระธิดาตามเสด็จออกป่าด้วย มิทรงยอมอยู่ในวังแม้พระเวสสันดรจะยับยั้งห้ามปราม มิให้มาตกระกำลำบากด้วยกันในป่า
ระหว่างทางที่เสด็จขึ้นราชรถทองไปนั้น มีพราหมณ์วิ่งมาทูลขอม้าบ้าง ขอราชรถบ้าง พระเวสสันดรก็ยกให้ทั้งสิ้น ในที่สุดจึงต้องทรงอุ้มพระโอรสและพระธิดาเสด็จเข้าป่าไป
อานิสงส์
ผู้ใดบูชากัณฑ์ทานกัณฑ์ จะบริบูรณ์ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ทาส ทาสี และสัตว์สองเท้าสี่เท้า ครั้นตายแล้วจะได้ไปเกิดในฉกามาพจรสวรรค์ มีนางเทพอัปสรแวดล้อมมากมาย เสวยสุขอยู่ในปราสาทสร้างด้วยแก้ว ๗ ประการ
ข้อคิดประจำกัณฑ์
๑. ความรักของแม่ ความห่วงของเมีย
๒.โทษทัณฑ์ของการเป็นหม้าย คือ ถูกประนามหยามหมิ่นอาจถึงจบชีวิตด้วยการก่อกองไฟให้รุ่งโรจน์แล้วโดดฆ่าตัวตาย
๓. เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม พึงยอมเสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว
๔. ยามบุญมีเขาก็ยก ยามตกต่ำเขาก็หยาม ชีวิตมีทั้งชื่นบานและขื่นขม
กัณฑ์วนปเวสน์
เมื่อเสด็จด้วยพระบาทถึงเมืองเจตรัฐพระราชาเสด็จมาต้อนรับและทูลเชิญให้ครองเมืองเจตรัฐนั้น แต่พระเวสสันดรขอไปบำเพ็ญเพียรในป่า กษัตริย์เจตรัฐจึงรับสั่งให้เจตบุตรคอยอารักขาในป่า และถวายน้ำผึ้งและเนื้อให้พระเวสสันดรด้วย
เมื่อพระเวสสันดรเดินทางมาถึงเขาวงกต พระนางมัทรีและชาลีกุมาร กัณหากุมารีต่างก็เหน็ดเหนื่อยสะอื้นไห้ด้วยความลำบากยากเข็ญ พระเวสสันดรจึงทรงเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นนุ่งห่มของนักบวช พระนางมัทรีก็ทรงบวชเป็นดาบสินี บำเพ็ญศีลกันในป่าอยู่ที่อาศรม พระนางมัทรีต้องปัดกวาดอาศรมทุกวันแล้วก็หาผลไม้ในป่า ตักน้ำมาเตรียมไว้
ในป่านั้นอุดมด้วยผลไม้นานาชาติ มีสระโบกขรณีน้ำสะอาดใสไหลเย็น มีพฤกษาร่มรื่นและมีดอกไม้หอมหวลทั่วทั้งป่าราวกับวิมานทิพย์
อานิสงส์
ผู้ใดบูชากัณฑ์เทศน์วนประเวศน์จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า จะได้เป็นบรมกษัตริย์ในชมพูทวีปเป็นผู้ทรงปรีชา เฉลียวฉลาด สามารถปราบอริราชศัตรูให้ย่อยยับไปฯ
ข้อคิดประจำกัณฑ์
๑. ยามเห็นใจ ยามจน ยามเจ็บ ยามจากเป็นยามที่ควรจะได้รับความเหลียวแล
๒. ผลดีของมิตรแท้ คือ ไม่ทอดทิ้งในยามเพื่อนทุกข์ ช่วยอุ้มชูยามเพื่อนอ่อนล้า ช่วยฉุดดึงยามเพื่อนตกต่ำ
๓. น้ำใจของคนดี หากรู้ชัดว่าปกติสุขของคนส่วนมากจะตั้งอยู่ได้ เพราะการเสียสละของตน ก็สมัครสลัดโอกาสและโชคลาภอันจะพึงได้ ด้วยความชื่นชม
อันตราย ๆๆ !!
นักวิทยาศาสตร์ของกองทุนวิจัยโรคมะเร็งโลก บอกเตือนว่า คอเบียร์ที่ดื่มวันละ ประมาณครึ่งลิตร จะทำให้ตนเองเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งกระเพาะสูงขึ้นถึง 1 ใน 5 พอๆกับการดื่มเหล้าไวน์วันละแก้วโต หรือดื่มเหล้าวอดก้า หรือยิน
ดร.ราเควล ธอมป์สัน แม่กองโครงการของกองทุน กล่าวว่า ส่วนพวกคอเหล้าที่ดื่มเหล้าวันละ เป็นเหล้าไวน์ 2 แก้ว หรือเหล้าธรรมดา 2 เป๊ก ก็ทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงขึ้นถึงร้อยละ 18 และเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับสูงขึ้นได้ถึง 1 ใน 5
“หากว่าเรารู้ได้ว่าปีหนึ่งๆ มันทำให้ มีคนป่วยเป็นมะเร็งเหล่านี้มากเท่าไร ก็จะนึกรู้ได้เองว่า การดื่มให้น้อยลง จะทำให้เกิดความแตกต่างลงไปได้มาก แต่ก็นั่นแหละแม้จะมีหลักฐานให้เห็นอย่างแข็งแรง คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าเหล้าทำให้ตนเข้าไปเสี่ยงใกล้กับมะเร็งได้มากเท่าใด มันจำเป็นที่เราจะต้องบอกเขาได้รู้ให้ซาบซึ้งมากขึ้น” นอกจากมะเร็งทั้งสองชนิดแล้ว กองทุน ยังแจ้งว่า มีหลักฐานที่เชื่อแน่ได้ว่า เหล้ายังทำให้เสี่ยงกับมะเร็งเต้านม มะเร็งปาก กล่องเสียง คอหอย และกระเพาะอาหารสูงขึ้นอีกด้วย
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551
หุ่นตัวเล็กสุก
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ทำไมต้อง "X'mas"

ซึ่งแต่แรกเริ่มนั้นก็เขียนว่า "Christmas" กันตามปกติ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็เริ่มมีการนำเอาคำว่า "X'mas" มาใช้แทน ซึ่งจากหลักฐานปรากฎว่า การใช้ "X"เป็นคำย่อแทนคำว่า "Christ"นั้นปรากฎครั้งแรกไม่เกิน ค.ศ. 1100 และคำว่า "X'mas" ปรากฎขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1551
จะว่าไปคำว่า "X'mas" ถือได้ว่าเป็นการเขียนที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาเท่าไหร่นัก สำหรับชาวต่างชาติบางคนที่เคร่งครัดการใช้ภาษาจริง ๆ อาจจะไม่ใช้คำนี้กัน แต่สำหรับวันรุ่นทั่ว ๆ ไปนั้นอาจจะนิยมเขียนกันมากกว่า
ถ้าจะให้เปรียบกับภาษาไทยแล้ว เราว่าน่าจะคล้ายกับคำว่า อย่างไร ซึ่งเป็นคำที่ใช้มากในภาษาเขียน แต่สำหรับเด็ก ๆ ทั่วไปหรือคนทั่ว ๆ ไปมักจะใช้คำว่า ยังไง มากกว่านั่นเอง
เอาล่ะจ้า ยังไงก็รู้ที่มาที่ไปของคำคำนี้กันไปแล้ว ต่อไปนี้ไม่ว่าจะใช้คำว่า "X'mas" หรือคำว่า "Christmas" ก็แล้วแต่ยังไงก็ถือว่าใช้ได้เหมือน ๆ กันนะจ๊ะ
วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551
คำถาม computer 20 ข้อ
ตอบ ง.
เพราะ เว็บของ hotmail เป็นเว็บที่ให้บริการของ e-mail ไม่ได้บริการของการสือค้นข้อมูล
2. Time sharing คืออะไรก. ยี่ห้อคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ยานอวกาศเดินทางได้เร็วกว่าแสง หรือเทียบเท่าข. ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนสามารถแบ่งใช้หน่วยประมวลผลกลางเครื่องเดียวกันค. ระบบ Internet ที่ใช้เวลาในการตัดสินการเข้าถึงข้อมูล จาก ISP คนละจุดง. ชื่อ CPU รุ่นใหม่ที่ออกแบบ โดย Intel corporationตอบ ข.
เพราะ ระบบแบ่งเวลา (Time-sharing หรือ Multitasking)
เป็นการขยายระบบ multiprogramming ทำให้สามารถสับเปลี่ยนงานของคนหลาย ๆ คนเข้าสู่ซีพียู ซึ่งการสับเปลี่ยนที่ทำด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนครอบครองซีพียูอยู่เพียงผู้เดียว
ที่มา : http://www.thaiall.com/os/os01.htm
3. Multiprocessing คืออะไรก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้นค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก
4. ฐานข้อมูล (Database) จะแก้ปัญหาเรื่องใดต่อไปนี้ไม่ได้ก. การซ้ำซ้อนของข้อมูลข. ผู้ใช้ไม่ต้องการข้อมูลค. ความไม่ทันสมัยของข้อมูลง. ข้อมูลไม่เชื่อมโยงถึงกัน
ตอบ ข.
5. LAN คืออะไร ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ก. สัตว์ชนิดหนึ่งที่ ชาวบ้านมักนำมาผัดเผ็ด หรือลาบข. ระบบ Internet ระบบใหม่ ที่ทำให้ทุกหน่วยงานเชื่อมต่อ Internet ได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ค. ระบบเครือข่ายระยะใกล้ (Local Area Network)ง. ระบบเครือข่ายระยะไกล ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Long Area Network)
ตอบ ค.
เพราะ แลน (LAN) หรือ ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ (Local Area Network) เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ถึงกันทั้งหมดโดยอาศัยสื่อกลาง มีการแบ่งแยกเครือข่ายออกเป็น 2 รูปแบบการเชื่อโยงคือ การเชื่อมโยงภายในพื้นที่ระยะใกล้หรือ แลน (LAN) และการเชื่อมโยงระยะไกลหรือแวน (WAN)
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99
6. ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดที่เป็นพื้นฐานของภาษา DELPHIก. Cข. BASICค. PASCALง. RPG
ตอบ ค.
เพราะ DelphiDelphi ก็มีรากมาจากภาษา Pascal ซึ่งเป็นภาษาในค่ายของ Wirth นั่นเอง แนวคิดของ Wirth ออกจะดูไม่ค่อยเหมือนภาษาอื่นๆ ตรงที่ เขาต้องการให้ภาษานั้นเรียนรู้ได้ง่าย มี syntax น้อย และที่สำคัญคือ โปรแกรมจะต้องกำหนดทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ตามแบบคนเป็นอาจารย์นั่นแหละครับ
ที่มา : http://www.twoguru.com/playground/article/languages.htm
7. NLQ (Near letter quality) คืออะไรก. คุณสมบัติของเครื่อง laser printer ท่านจะเห็นได้ที่ใต้เครื่อง laser printer ทุกยี่ห้อข. คุณสมบัติของเครื่องพิมพ์ Dot matrix ที่ทำให้เครื่องพิมพ์พิมพ์ตัวอักษรได้คมชัดที่สุดค. คุณสมบัติที่เป็นอีกชื่อหนึ่งของ DRAFT ในเครื่องพิมพ์ Dot matrixง. ชื่อเครื่องพิมพ์ Laser printer เครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบโดย Bill gate
ตอบ ข. เพราะ NLQเอ็นแอลคิว ความหมายย่อมาจาก near letter quality (คุณภาพเกือบคมชัด) แปลตามตัวอักษรว่า เกือบเหมือนตัวพิมพ์ดีด ใช้เป็นคำอธิบายถึงคุณภาพของเครื่องพิมพ์ว่า สามารถพิมพ์ได้เกือบคมชัด หรือใกล้เคียงตัวพิมพ์ดีด เครื่องพิมพ์ที่มีคุณภาพ จะมองดูเหมือนการนำจุดมาเรียงกันให้เป็นรูปตัวอักษร ฉะนั้น เครื่องพิมพ์ชนิดที่มีจุดมาก ๆ ติด ๆ กัน จะทำให้ความคมชัด (high resolution) ตัวอักษรที่พิมพ์ออกมา จะดูสวยและประณีต เหมือนตัวพิมพ์ดีด การวัดคุณภาพของเครื่องพิมพ์ จึงวัดเป็นจำนวนจุดต่อนิ้ว เช่น 600 จุดต่อนิ้ว ย่อมดีกว่า 300 จุดต่อนิ้ว เป็นต้น (300 จุดต่อนิ้ว พอจะเรียกได้ว่า คุณภาพเกือบคมชัด) ดู printer และ letter quality ประกอบ
ที่มา : http://guru.sanook.com/dictionary/dict_comp/NLQ/
8. NS หรือ Nanosecond มีอัตราส่วนเท่าใด
ก. "1/1,000 วินาที"
ข. "1/1,000,000 วินาที"
ค. "1/1,000,000,000 วินาที"
ง. "1/1,000,000,000,000 วินาที"
ตอบ ค.
เพราะ 1 nanosecond (ns หรือ nsec) คือ 1 ส่วน พันล้าน (1/1,000,000,000) หรือ 10^-9 ของวินาที และโดยทั่วไปใช้วัดเวลาของการอ่าน หรือเขียนที่เข้าถึงหน่วยความจำชั่วคราว (RAM)
ที่มา : http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=nanosecond&term_group=N
9. 1 KB (กิโลไบต์) มีกี่ Byte (ไบต์)ก. 1024ข. 8ค. 256ง. 65536
ตอบ ก.
เพราะ KB หรือ 1 Kilobyte = 1024 Byte ครับเพราะ คอมพิวเตอร์มันทำงานเป็น เลขฐาน 2 คือ มี 0 กับ 1ดังนั้น 2 ยกกำลัง 10 = 1024 แต่เราเรียกว่า 1 Kiloดังนั้น 1 Kilo Byte จึงเท่ากับ 1024 Byte ครับ
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/vcafe/48714
10. Octal number หมายถึงเลขฐานใดก. 2ข. 8ค. 16ง. 256
ตอบ ข.
เพราะ
ระบบเลขฐานแปด (Octal Number System)ระบบเลขฐานแปดเป็นระบบเลขที่มีเลขโดดที่ใช้ทั้งหมดแปดตัวเรียงตามลำดับค่าดังนี้ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ซึ่งเป็นระบบเลขที่มีความสำคัญมากอีกระบบหนึ่งที่ใช้ในการศึกษาวงจรในระบบดิจิตอลคอม พิวเตอร์
ที่มา : http://www.geocities.com/edward881th/octal.htm
11. 1 GB (กิกะไบต์) มีกี่ MB (เมกะไบต์)ก. 256ข. 8ค. 1024ง. 65536
ตอบ ค.
เพราะ 1 MB (เมกกะไบต์) = 1024 KB
1 GB (กิกะไบต์) = 1024 MB ครับ
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/vcafe/48714
12.ความเร็ว 1 millisecond หมายถึงเท่าใด
ก. 1 ต่อล้านวินาที
ข. 1 ต่อพันวินาที
ค. 1 ต่อพันล้านวินาที
ง. 1 ต่อล้านล้านวินาที
ตอบ ข.
เพราะ 1 Millisecond (ms หรือ msec) คือ 1 ส่วนพัน(1/000 ของวินาที และโดยทั่วไปใช้วัดเวลาของการอ่าน หรือเขียนจากฮาร์ดดิสก์ หรือ เครื่องเล่น CD-ROM หรือการวัดเวลาเดินทางแพ็คเกตบนอินเตอร์เน็ต
ที่มา : http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=nanosecond&term_group=N
13.ความเร็ว 1 microsecond หมายถึงเท่าใด
ก. 2 ต่อพันล้านวินาที
ข. 1 ต่อพันวินาที
ค. 1 ต่อล้านวินาที
ง. 2 ต่อล้านล้านวินาที
ตอบ ค.
เพราะ microsecond คือ 1 ส่วน ล้าน (1/1,000,000) หรือ 10^-6 ของวินาที
ที่มา : http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=nanosecond&term_group=N
14. ความเร็ว 1 nanosecond หมายถึงเท่าใด
ก. 3 ต่อล้านล้านวินาที
ข. 3 ต่อล้านวินาที
ค. 1 ต่อพันวินาที
ง. 1 ต่อพันล้านวินาที
ตอบ ง.เพราะ 1 nanosecond (ns หรือ nsec) คือ 1 ส่วน พันล้าน (1/1,000,000,000)
ที่มา : http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=nanosecond&term_group=N
15.ความเร็ว 1 picosecond หมายถึงเท่าใดก. 1 ต่อล้านล้านวินาทีข. 4 ต่อล้านวินาทีค. 4 ต่อพันล้านวินาทีง. 1 ต่อพันวินาที
ตอบ ก.
เพราะ picosecond คือ 1 ส่วนล้านล้าน ( 1/1,000,000,000,000) หรือ 10^-12 ของวินาที หรือ 1 ส่วนล้านของ microsecond
ที่มา : http://www.widebase.net/knowledge/itterm/it_term_desc.php?term_id=nanosecond&term_group=N
16.คำว่า RGB ที่เกี่ยวกับสี RGB นั้นย่อมาจากอะไร
ก. RED GREAT BLANK
ข. RED GREEN BLUE
ค. REAL GROUP BEST
ง. RIGHT GIVE BEST
ตอบ ข.
เพราะ ระบบสี RGB
การผสมสีRGB ย่อมาจาก red, green และ blue คือ กระบวนการผสมสีจากแม่สี 3 สี คือสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน การใช้สัดส่วนของสี 3 สีนี้ต่างกัน จะทำให้เกิดสีต่างๆ ได้อีกมากมาย
ระบบสี RGB เป็นระบบสีที่เกิดจากการรวมกันของแสงสีแดง เขียว และน้ำเงินโดยมีการรวมกันแบบ Additive ซึ่งโดยปกติจะนำไปใช้ในจอภาพแบบ CRT (Cathode ray tube) ในการใช้งานระบบสี RGB ยังมีการสร้างมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไปที่นิยมใช้งานได้แต่ RGBCIE และ RGBNTSC
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B5_RGB
17.โปรแกรมใดเป็น Browser ของ บริษัท Microsoft
ก. Opera
ข. Netscape
ค. Neoplanet
ง. Internet Explorer
ตอบ ง.
18. MODEM คืออะไรก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณ Digital ไปสู่สัญญาณ Analog และจากสัญญาณ Analog กลับมาเป็นสัญญาณ digital ซึ่งใช้ประโยชน์ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณเช่น โทรศัพท์ เป็นต้นข. อุปกรณ์สร้างภาพ 3 มิติให้กับเกมส์ของบริษัท SEGA รุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และออกวางตลาดในปี 2542 และแพร่หลายอย่างรวดเร็วไปในทุกประเทศค. ชื่อของจรวดทำลายชนิดใหม่ ที่ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์สำหรับนำวิธีมีขนาดเล็กเท่าปากกา พกพาได้สะดวก แต่มีพลังทำลายเทียบเท่าหรือมากกว่า 10 กิโลเมตร แต่มีข้อดีคือไม่มีการแผ่รังสี แต่อย่างใดง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก.
เพราะ โมเดม (Modem)
โมเดม เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ ให้สามารถส่งสัญญาณผ่าน
สายโทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้
โมเดมจะมีทั้งชนิดเชื่อมต่อภายนอก (External Modem) และชนิดที่เป็นการ์ดอยู่ภาย
ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Internal Modem) ที่มา : http://www.tanti.ac.th/Com-tranning/NetWork/modem.htm
19. Multitasking คืออะไร
ก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณ
ข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้น
ค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณ
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค.
20. Multiprogramming คืออะไรก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้นค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข.
วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551
เพลง 6 วัย
1. เพลง หลอกกันไซ (พี่สาว อายุ 22)
ศิลปิน อันดา
เนื้อเพลง มีใครหลายคนในเวลาเดียวกัน เธอทำอย่างนั้นทำไมคนดี มีคนที่รอเธออยู่ตรงนี้
ทำไมไม่มีฉันในหัวใจ
2. เพลง ช่วยรับที (น้า อายุ 33 )
ศิลปิน เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตpN
เนื้อเพลง หากตรงนั้น มีใครใจดี ได้ยินเสียงนี้ดังบอกเจ้าของเครื่องนี้ให้รับมันสักครั้งได้ไหมหรือจะปล่อยให้ดัง อยู่อีกนานเท่าไรช่วยทำให้เธอใจอ่อน และเข้าใจ ช่วยรับที
3. เพลง จี่หอย (ลุง อายุ 55)
ศิลปิน พี สะเดิด
เนื้อเพลง เลาะเลียบตามแคบน้ำ แคมหนอง ก็มีของกินเป็นอาหารหอยปากกว้างนั่นแหละโตการมันเป็นโตมารกัดกกข้าวในนามันเป็นโตมารกัดกกข้าวในนา
4. เพลง ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้(ยาย อายุ 77)
ศิลปิน ตั๊กแตน ชลดา
เนื้อเพลง คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้ เหนื่อยก็รู้ เหงาก็เข้าใจ แต่ไม่อาจให้ยืม
5. เพลง จังหวะหัวใจ (น้องสาว อายุ 5)
ศิลปิน บี้ เดอะสตาร์
เนื้อเพลง มาเล่นในใจฉันเต้นแบบนี้ฉันว่าเธอก็มีอาการใช่ไหม ใจมันเต้น มันเต้น เป็นจังหวะรัก แล้วเธอล่ะเต้นจังหวะยังไง
6. เพลง ขอนไม้กับเรือ (อา_37)
ศิลปิน บาววี เนื้อเพลง เปรียบกับพี่เป็นแค่ขอนไม้ ต่อให้รักเจ้ามากพียงไหน
งานภาษาไทย
กิระ ดังได้ยินมาว่า อถะ โจ โพธิสัตโต ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เจ้าออกบวชเป็นฤๅษีอยู่ในป่าหิมพานต์ เมื่อจะให้โอวาทแก่พระดาบสกุมารผู้เป็นบุตรสุดที่รัก จึงกล่าวว่า ยัสสะ กาเยนะ วาจายะ ฯ ล ฯ สังคะโม ดูก่อนเจ้าผู้เป็นบุตร เจ้าจะไปอยู่ในหมู่มนุษย์ในประเทศใด ถ้ามนุษย์นั้นประพฤติอยู่ในความชั่วด้วยกาย วาจา ใจ แล้ว เจ้าจงอย่าพึงอยู่ เจ้าจงอยู่ในหมู่มนุษย์ที่ประพฤติสุจริตทางกาย วาจา จิต ปิดเสียซึ่งทางบาปนั่นแหละ ได้ชื่อว่าเป็นลาภของเจ้าอย่างยิ่ง อนึ่ง ดูก่อนเจ้าผู้เป็นบุตร ในชมพูทวีปนี้ไม่มีมนุษย์ที่มีความบริสุทธิ์ด้วย กาย วาจา จิต แล้ว เจ้าจงอยู่แต่ผู้เดียวดีกว่า เจ้าอย่าได้คบหาอยู่ด้วยคนพาล เจ้าจงหลีกออกไปให้ห่างไกลจากคนพาล เหมือนบุคคลหลีกขวากหนามในมรรคา เหมือนบุคคลหลีกเสือช้างในกลางป่าให้ห่างไกล จึงจะพ้นอันตราย เจ้าจงเว้นซึ่งคนพาลทั้งหลาย หลีกเสียให้ไกล จึงจะได้ซึ่งความสุขทั้งชาตินี้และชาติหน้า อนึ่ง พระพุทธฎีกาก็ทรงตรัสว่า ไฟจะเกิดขึ้นแต่เรือนอันบุคคลมุงด้วยหญ้าและใบไม้ แล้วก็ไหม้ลามไปสู่เรือนอื่นๆ มีเรือนยอดเป็นต้น ภัยทั้งหลายจะมีก็อาศัยแก่คนพาล อนึ่ง พระพุทธองค์ทรงเทศนาแก่พระฉันนเถระว่า ชนทั้งหลายเหล่าใดมีความยินดีในทุจริต ๓ มีกายทุจริตเป็นต้น เรียกว่า คนพาล คนพาลมี ๒ คือ คฤหัสถ์เป็นพาล ๑ บรรพชิตเป็นพาล ๑ บรรพชิตเป็นพาลนั้น คือ ทำในอเนสนา ๒๑ ประการ เป็นหมอรักษาไข้ นำข่าวสาส์นของคฤหัสถ์ การนำนอกพุทธบัญญัติ มีเล่นการพนันเป็นต้น ตลอดจนเล่นมโหรีพิณพาทย์เป็นอวสาน และทำความวิวาทแตกร้าว ไม่ทำการสามัคคี ดังภิกษุเมืองโกสัมพีเป็นต้น พาโล นาม ภิกษุเหล่านี้ชื่อว่า เป็นพาลในพระศาสนา ฯ คฤหัสถ์เป็นพาลนั้นมีครูทั้ง ๖ เป็นต้น
เป็นนิทานเกี่ยวกับมงคลที่ ๑ คือ ไม่คบคนพาล
วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ความรัก.. มีค่ามากเพียงใด
ใคร...ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเราไปจากเดิม
เราอาจจะเดินไปเจอใครคนนั้นที่ปลายฟ้า
หรืออาจจะอยู่เพียงแค่ปลายสายตา
ไม่มีใครรู้ว่าปลายทางของความรักจะเป็นเช่นไร
ถ้าโชคดี เราอาจจะมีความรักดีๆ ที่ทำให้เรามีความสุข
แต่ถ้าโชคร้าย คนที่เคยสูญเสียความรักไปแล้วเท่านั้น
ถึงจะรู้ว่า เราอาจจะชดใช้สิ่งที่เราเคยทำพลาด
ด้วยความเจ็บปวด อย่างที่อาจจะไม่มีใครเข้าใจ
ในวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เราอาจจะเสียใจกับสิ่งที่ไม่อาจหวนคืน
แต่วันนึงข้างหน้า
เราจะขอบคุณความเจ็บปวดเหล่านั้น
เราจะขอบคุณวันที่ไม่มีใคร
และไม่ว่าคืนวันที่ผ่านไปจะเจ็บช้ำสักเพียงไหน
โอบกอดตัวเองบ้างในวันที่ไม่มีใคร
ปลอบใจตัวเองบ้างในวันที่ความรักเปลี่ยนไป
โชคชะตาอาจจะพาเราไปพบเจอใครต่อใคร
ในวันที่เรามองย้อนกลับมา
หัวใจจะบอกเราเสมอว่า
ความรัก ... มีค่าเพียงใด
http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=53&post_id=1289273
วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ถ้าคุณรักเขา...แลวเขาจะรักคุณไหม??
http://variety.teenee.com/foodforbrain/12335.html
วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551
พระจันทร์ยิ้ม

พระจันทร์ยิ้ม !!! วิ้งๆ ถ้าเพื่อนๆ อยากเห็นให้คืนนี้ ลอง เดิน ออกไปดูนอกบ้าน ทางรอบๆ ทิศ ตะวันออก - ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะเจอเองค่ะสวยมาก ลักษณะ เหมือน คนกำลังยิ้มตามดาราศาสตร์มันคือ การโคจรของ ดาวพฤหัว ดาวศุกร์ และดวงจันทร์คะเพื่อนๆ ลอง ออกไปดูนะคะ สวยมากกก
อ่านรายละเ อียด เกี่ยวกับรอยยิ้มบนท้องฟ้าที่นี่ค่ะ
ดาวพฤหัสบดีเข้าใกล้ดาวศุกร์มองเห็นบนท้องฟ้าระยะ 4 องศาแล้ว ก่อนเป็นดาวคู่พระจันทร์เสี้ยวมองเห็นเหมือนหน้าคนยิ้มบนท้องฟ้า
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (28 พ.ย. 51) นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า จากที่จะเกิดปรากฏการณ์ดาวพฤหัสบดีคู่ดาวศุกร์และมีดวงจันทร์เสี้ยวด้านล่าง ซึ่งปรากฏการณ์นี้มีหลายคนจินตนาการว่าคล้ายใบหน้าของคนกำลังอมยิ้มอย่างมีความสุขบนฟากฟ้าในช่วงค่ำวันที่ 1 ธันวาคม 2551 ตั้งแต่เวลา 17.00-21.30 น. โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว โดยสามารถมองเห็นดาวศุกร์อยู่เคียงข้างกับดาวพฤหัสบดีใกล้กันเพียง 2 องศา และจะมีดวงจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ อยู่ ข้างล่างดาวทั้ง สองดวง ห่างดาว เพียง 2 องศาเช่นกัน พร้อม Earth shine คือปรากฏการณ์แสงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกและสะท้อนไปยังดวงจันทร์ทำให้ดวงจันทร์ในวันขึ้น ๓ ค่ำที่จะต้องมองเห็นเป็นจันทร์เสี้ยว แต่กลับมองเห็นเป็นจันทร์เต็มดวง ซึ่งสวยงามมากนั้น
”ในเวลาพลบค่ำขณะนี้ ดาวพฤหัสบดี กับดาวศุกร์เริ่มเข้าใกล้กันมากตามลำดับ โดยอยู่ห่างกันเป็นระยะเชิงมุมไม่เกิน 4 องศา กว้างขนาดของนิ้วหัวแม่มือ2นิ้วประกบกัน ที่มองเห็นเมื่อยืดแขนออกไปข้างหน้า การปรากฏใกล้กันของดาวศุกร์กับดาวพฤหัสบดีเป็นเพียงมุมมองจากโลกเท่านั้น ในความเป็นจริงดาวเคราะห์ 2 ดวงนี้อยู่ห่างกันในอวกาศถึง 760 ล้านกิโลเมตร”
นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 1 ธ.ค. 51 จะเข้าใกล้กันในระยะ 2 องศาบนท้องฟ้าโดยด้านล่างจะมีดวงจันทร์เสี้ยว เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นเหมือนกับใบหน้าคนยิ้มบนท้องฟ้าดังกล่าวข้างต้น และในวันเดียวกันนี้ในทางทวีปยุโรปทั้งหมดจะเห็นเป็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวศุกร์พอดี ในขณะอเมริกาดวงจันทร์จะเลยสูงขึ้นไป”นายวรวิทย์กล่าวในที่สุด
ขณะที่นายมรกต อารียะ ศูนย์ศึกษาดาราศาสตร์และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น จ.อุตรดิตถ์กล่าวว่า “ช่วงที่จะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวศูนย์ศึกษาดาราศาสตร์อุตรดิตถ์จะได้นำกล้องดูดาวและกล้องสองตาตั้งสังเกตการณ์ดาวคู่เดือนที่บริเวณสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นที่โล่งมองเห็นขอบฟ้าตะวันตกได้ดี ซึ่งเชื่อว่าช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาว ท้องฟ้ามืดเร็วและจะสามารถมองเห็นได้ โดยไม่มีอุปสรรครบกวน เหมือนช่วงที่เกิดฝนดาวตกเลโอนิคส์ 16-19 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา
ขอบคุณที่มาจากคมชัดลึก
ที่มา http://mninho.wordpress.com ข้อความถูกแก้ไขเมื่อวันที่ 1 December 2008, 22:38
วอเตอร์มิ้ล
ต่อไปเครื่องทำน้ำดื่มจากอากาศจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับไมโครเวฟ
เครื่องทำน้ำดื่ม "วอเตอร์มิลล์" ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับไมโครเวฟ คือทำให้ความชื้นน้อยลง โดยการจับความชื้นในอากาศ ซึ่งเป็นแหล่งความชื้นในธรรมชาติที่ไม่มีวันหมด
"วอเตอร์มิลล์" จะแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่มีน้ำสะอาดเอาไว้ดื่ม ด้วยการจับความชื้นในอากาศมาเข้าเครื่องกรองและเครื่องทำความเย็น จนกลั่นความชื้นออกมาเป็นน้ำได้ แต่ละวันจะผลิตน้ำได้ 12 ลิตร ในช่วงที่มีพายุฝนที่ความชื้นในอากาศสูง จะผลิตน้ำได้มากกว่านี้อีก
นายโจนาธาน ริตชี่ ผู้ประดิษฐ์ กล่าวว่า "วอเตอร์มิลล์สูง 3 ฟุต ราคา 44,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการผลิตตกลิตรละ 15 บาท ใช้พลังงานเพียงแค่ไฟ 3 ดวง แต่ต้องใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นมากกว่า 30% เท่านั้น"
http://www.yenta4.com/webboard/2/1287927.html
วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
แบ่งปัน

สังคมจะ "น่าอยู่" หากมีภาพแบบนี้เกิดขึ้นเยอะๆภาพที่คุณกำลัง "มอง" อยู่นี่แหละ!!!ภาพของ สุนัขที่กำลังให้นมลูกแมว!!!ว่าแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ภาพนี้จะทำให้ใครรู้สึกอยากหันกลับมาถามตัวเองบ้างมั้ยว่า...เราเคยเป็นฝ่าย "ให้" อะไรแก่ใครบ้างหรือเปล่า?หรือดีแต่ "ให้ร้าย" คนอื่นอยู่เรื่อย?เก็บมาฝาก เพราะอยากให้หัวใจของใครต่อใครรู้สึกอบอุ่น
โดยทั้งหมดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านของชายชาวจีนผู้หนึ่งในเมืองเจียงเหมิน ประเทศจีนที่เล่าว่า...เค้าเลี้ยงแมว และหมามาด้วยกันนานนับ 10 ปีสัตว์ต่างสายพันธุ์จึงเข้ากันได้ดี ไม่เคยมีปัญหาแต่ถึงกระนั้น นี่ก็เป็น "ครั้งแรก" ในชีวิตที่เขาได้เห็นภาพสุนัขให้นมลูกแมวซึ่งแม่ของพวกน้องเหมียวเหล่านี้ เพิ่งตายไป เพราะไปเขมือบหนูมีพิษสุนัขแม่ลูกอ่อน ก็เลยสงสารเมื่อได้ยินเสียงร้องเพราะหิวนมของลูกแมว มันก็เลยมีน้ำใจปันน้ำนมของมันให้แก่ลูกแมวเหล่านี้ได้ดูดกัน ต่างนมแม่ อย่างที่เห็นนี่แหละใครที่ไม่มี "น้ำนม" ก็เริ่มที่ปัน "น้ำใจ" น่ะมีมั้ย?มีมั้ย?
คอลัมน์ เกร็ดต่างแดน
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ มติชน
ข้อดีของการฟังเพลง สนุกๆ

นักวิจัยคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ในบัลติมอร์ ได้ศึกษากับอาสาสมัครชายสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ 70 เปอร์เซ็นต์ อายุเฉลี่ย 36 ปี พบว่าดนตรีที่อาสาสมัครเลือกฟังแล้วทำให้อารมณ์ดีสนุกสนานนั้น จะทำให้ เนื้อเยื่อในหลอดโลหิตขยายตัว เพื่อให้กระแสโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ผลสนองตอบด้านสุขภาพเช่นนี้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับที่นักวิจัยกลุ่มเดียวกันนี้เคยศึกษาไว้เมื่อปี 2548 เกี่ยวกับเรื่องการหัวเราะ การศึกษาครั้งนี้พบว่า เมื่ออาสาสมัครฟังเพลงในแบบที่ตนรู้สึกว่าเคร่งเครียดจะส่งผลต่อหลอดเลือดให้ตีบแคบลง กล่าวคือการไหลเวียนของโลหิตลดลง.
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
เตือนภัยหนุ่มสาวออฟฟิศระวัง CTS ถามหา
และเพราะการที่เราต้องทำงานให้ทันต่อเวลานี่เองเลยทำให้บางครั้งเราอาจจะละเลยที่จะใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเราเองไปบ้าง บางคนกว่าจะมารู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
วันนี้เลยหยิบเอาภัยคุกคามหนุ่มสาววัยทำงานมาฝากกันค่ะ ที่ว่าเป็นภัยคุกคามนั้นเพราะโรคที่จะพูดถึงต่อไปนี้ บางคนก็อาจจะรู้จัก แต่มีหลาย ๆ คนเลยทีเดียวที่ไม่ทราบว่ามีโรคชนิดนี้อยู่ด้วย โรคที่ว่านั่นก็คือ เอ็นกล้ามเนื้อต้นคออักเสบ หรือ Carpal Tunnel Syndrome (CTS)
สาเหตุหลักเกิดจากการใช้ข้อมือในการยึดจับสิ่งของ หรือเมาส์คอมพิวเตอร์ในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก หรืออาจเกิดจากการทำงานของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณผ่านท่อนแขนจากข้อศอกไปยังบริเวณข้อมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เกิดอาการปวดของปลายประสาท หรือเส้นเอ็นบริเวณต้นคอเกิดการอักเสบซึ่งมาจากสาเหตุเดียวกัน
ปัจจุบันนี้หนุ่มสาวออฟฟิศนั้นต่างก็ต้องทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์และเมาส์เป็นระยะเวลานานเกือบจะตลอดทั้งวัน ซึ่งในตอนนี้นั้นพบว่ามีหลายคนมากเลยทีเดียวที่เริ่มเป็นโรคนี้กันแล้ว นอกจานี้กลุ่มคนที่เสี่ยงยังมีตั้งแต่กลุ่มคนที่ใช้มือมาก ๆ อย่างเช่น คนที่ชอบถักนิตติ้ง หญิงใกล้คลอด ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อปลายประสาท เป็นต้น
อาการที่พบคือ ผู้ป่วยจะมีอาการเสียวและชาที่มือ บางรายอาจจะมีอาการปวดไปทั้งแขน จากนั้นจะเริ่มรู้สึกว่ามือเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ รวมทั้งกล้ามเนื้อตรงช่วงหัวแม่มือก็จะค่อย ๆ ลีบหดลงเรื่อย ๆ ด้วยค่ะ
สำหรับการรักษานั้น มีทั้งการทานยาและผ่าตัด ซึ่งในรายที่ไม่รุนแรงมากเพียงแค่ทานยาอาการก็จะหายไปได้เอง แต่ในรายที่รุนแรงมาก ๆ จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษาค่ะ
แต่ถ้าใครที่ไม่อยากเป็นโรคนี้ล่ะก็แนะนำให้หมั่นผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณมือและข้อมือทุก 15 - 20 นาทีค่ะ จะสามารถช่วยได้ แต่วิธีการที่ดีที่สุดก็คือรู้จักแบ่งเวลาทำงาน และเวลาพักผ่อนออกกำลังค่ะ เพราะถ้าคุณเอาแต่ทำงานมากจนเกินไป เจ้าโรคนี้อาจจะถามหาเอาได้ค่ะ
วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
อันตรายของ printer ที่เป็นแบบเลเซอร์
ทีมนักวิทยาศาสตร์ในออสเตรเลียพบว่า เครื่อง เลเซอร์พรินเตอร์ ที่ใช้พิมพ์งานในสำนักงานนั้น เป็นอันตรายต่อปอดของคนทำงานได้พอ ๆ กับอนุภาคควันจากการสูบบุหรี่
ผลจากการเฝ้าสังเกตตรวจตราเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์หลายรุ่น 1 ใน 3 ของเครื่องนั้นปล่อยระดับหมึกที่เป็นอันตรายออกมาสู่อากาศรอบข้าง ทีมนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ เรียกร้องต่อรัฐบาลให้ออกกฎควบคุมการฟุ้งกระจายของหมึกจากเครื่องพรินเตอร์อย่างจริงจัง และเสนอว่าเครื่องพรินเตอร์ บางชนิดน่าจะมีการติดป้ายเตือนภัยเกี่ยวกับสุขภาพ
นักวิจัยกลุ่มนี้ได้ทำการทดสอบเครื่องพรินเตอร์ต่าง ๆ กว่า 60 เครื่อง พบว่าเกือบ 1/3 นั้นมีการปล่อยอนุภาคหมึกขนาดเล็กจิ๋วออกมา มันมีขนาดเล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดได้ และเป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ไปจนถึงการเจ็บป่วยเรื้อรัง
ในการทดสอบกระทำขึ้นภายในสำนักงานแบบเปิดและพบว่า อนุภาคนั้นเพิ่มขึ้น 5 เท่าระหว่างชั่วโมงทำงาน ซึ่งสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากการใช้เครื่อง พรินเตอร์ นั่นเอง ปัญหาจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนหมึกพิมพ์ใหม่ และมีการเรียกใช้งานพิมพ์ภาพกราฟฟิกที่มีปริมาณการใช้หมึกพิมพ์สูง
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยกเลิกไม่ใช้เจ้าเครื่องพรินเตอร์ไปเลยหรอกนะคะ เพียงแต่รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพกันด้วย
ทักทายเปิดเทอม
ห่างหายไปซะนาน !!
เผลอแปปเดียว ก็เปิดเทอมแล้วครับ
สำหรับ เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าก็ได้ไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ
ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่
ที่ได้ไปใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน ๆ
พอเปิดเทอมมา งานก็มีมาเรื่อยๆ ก็เหนื่อยกันไป
แต่ก็ต้องทำ เพื่ออนาคต
สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน
วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551
blog ของเพื่อนๆ จ้า
เลขที่ 3 นายศุภรัช (เอก) ม.4/1 : http://akelllp.mthai.com
เลขที่ 3 นายชัยพร (แมน) ม.4/2 :http://dekben.blog.mthai.com/
เลขที่ 4 นายณัฐพล (คัท) :http://blog.hunsa.com/nattaponcutter
เลขที่ 5 นายดรัณภพ (ไอเดีย) :http://www.oknation.net/blog/dreammaker/
เลขที่ 6 นายทิชาวุฒิ (ปอม) :http://thicahwuth.blogspot.com/
เลขที่ 7 นายธนสิทธิ์ (ต๋อง) :http://blog.hunsa.com/tong9613
เลขที่ 8 นายนนทนันท์(นาย) :http://nai-iannoi.blogspot.com/
เลขที่ 9 นายเมธา (เอฟ) : http://blog.hunsa.com/meta2535/
เลขที่ 10 นายศตคุณ (มีน) :http://zatakun-mongteenz.blogspot.com/
เลขที่ 11 นายสหรัฐ (แชมป์) :http://love-pp-nine.blogspot.com/
เลขที่ 12 นายสุทธิพงษ์ (ต้น) :http://blog.hunsa.com/ton216/
เลขที่ 13 นายกษิดิษ (เกมส์) :http://blog.hunsa.com/gamekadid/
อิเหนา
ผู้แต่ง พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
ประวัติผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอิศรสุนทรฯ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งราชจักรีวงศ์ มีพระนามเต็มว่า : พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหา จักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สากลจักรวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธิบดี ศรีวิบูลยคุณอกนิษฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมิทรปรมาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธิ รัตนมกุฎประกาศ คตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว ( พระนามที่ปรากฏ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น พึ่งถวายพระนามเรียกเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๓ )พระนามเดิม : ฉิม (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร) พระราชสมภพ : เมื่อ วันพุธ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน เวลาเช้า ๕ ยาม ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๔ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสวยราชสมบัติ : เมื่อปีมะเส็ง ปีพ.ศ. ๒๓๕๒ - ๒๓๖๗ ขณะมีพระชนมายุได้ ๔๒ พรรษา รวมสิริดำรงราชสมบัติ ๑๖ ปี พระราชโอรส-ราชธิดา รวมทั้งสิ้น ๗๓ พระองค์ เสด็จสวรรคต : พ.ศ. ๒๓๖๗ วัดประจำรัชการ : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)วันที่15พ.ศ. 2155
ลักษณะคำประพันธ์ กลอนบทละคร มีลักษณะดังนี้
๑.กลอนแต่ละวรรค มีจำนวนคำระหว่าง ๗ – ๘ คำ
๒. การสัมผัสในจะมีทั้งสัมผัสพยัญชนะและสัมผัสสระเป็นคู่ ๆ ในแต่ละวรรค ทำให้เกิดเสียงเสนาะขึ้น เช่น
ว่าพลางโอบอุ้มอรทัย
ขึ้นไว้เหนือตักสะพักชม
เอนองค์ลงแอบแนบน้อง
เชยปรางพลางประคองสองสม
คลึงเคล้าเย้ายวนสำรวลรมย์
เกลียวกลมสมสวาทไม่คลาดคลาย
กรกอดประทับแล้วรับขวัญ
อย่าตระหนกอกสั่นนะโฉมฉาย
ฤดีดาลซ่านจับเนตรพราย
ดังสายสุนีวาบปลาบตา
ลักษณะนิสัยของตัวละคร
1.อิเหนาหรือระเด่นมนตรี เป็นโอรสของท้าวกุเรปันและประไหมสุหรีนิหลาอระตา แห่งกรุงกุเรปัน อิเหนาเป็นชายรูปงามมีเสน่ห์ เจรจาอ่อนหวาน นิสัยเจ้าชู้ มีความเชี่ยวชาญในการใช้กริชและกระบี่เป็นอาวุธ ท้าวกุเรปันได้สูขอบุษบาหนึ่งหรัดธิดาของท้าวดาหาเป็นคู่ตุนาหงันของอิเหนาตั้งแต่เด็ก ครั้นอิเหนาโตเป็นหนุ่มได้พบ จินตะหราวาตีและหลงใหลนางมาก จึงปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานกับบุษบา แต่พอได้พบกับบุษบาก็หลงรักนาง จนกระทั่งลักพา ตัวนางไปขณะที่นางกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับระตูจรกา ทำให้องค์ปะตาระกาหลาโกรธอิเหนาจึงบันดาลให้ลมหอบนางไปเสีย อิเหนาก็ปลอมตัวเป็นโจรป่าชื่อ มิสารปันหยี ออกติดตามหานางจนทั่วแผ่นดินชวาก็ไม่พบ จึงตัดสินใจบวชเป็นฤาษี ใช้ชื่อว่า กัศมาหรา ได้รับความทุกข์ทรมานใจแสนสาหัสกว่าจะได้พบนางบุษบาอีกครั้ง ภายหลังอิเหนาได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองกุเรปันมีมเหสีถึง ๑๐ องค์ได้แก่จินตะหราวาตี เป็น ประไหมสุหรีฝ่ายขวา บุษบาหนึ่งหรัด เป็น ประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายสะการะวาตี เป็น มะเดหวีฝ่ายขวา มาหยารัศมี เป็นมะเดหวีฝ่ายซ้ายบุษบาวิศ เป็น มะโตฝ่ายขวา บุษบากันจะหนา เป็น มะโตฝ่ายซ้าย ระหนาระกะติกา เป็น ลิกูฝ่ายขวา อรสา เป็น ลิกูฝ่ายซ้าย สุหรันกันจาส่าหรี เป็น เหมาหลาหงีฝ่ายขวา หงยาหยา เป็น เหมาหลาหงีฝ่ายซ้าย 2.บุษบาหรึ่งหรัดหรือบุษบาเป็นธิดาของท้าวดาหาและประไหมสุหรีตาหราวาตี แห่งกรุงดาหา เมื่อตอนประสูติมีเหตุอัศจรรย์คือ มีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งวัง ดนตรี แตรสังข์ ก็ดังขึ้นเองโดยไม่มีผู้บรรเลง ประสูติได้ไม่นาน ท้าวกุเรปันก็ขอตุนาหงัน ให้กับอิเหนา บุษบาเป็นหญิงที่งามล้ำเลิศกว่านางใดในแผ่นดินชวา กิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคน ใจกว้างและมี เหตุผล จึงผูกใจให้อิเหนารักใคร่ ให้ลงหลงนางยิ่งกว่าหญิงอื่นนอกจากนั้นบุษบายังเป็นลูกที่ดีอยู่ในโอวาทของพระบิดาพระมารดา ยอมแต่งงานกับระตูจรกา แม้ว่าจะไม่พอใจในความขี้ริ้วขี้เหร่ของระตูจรกาก็ตาม
3.ท้าวกะหมังกุหนิง ผู้ครองเมืองกะหมังกุหนิง มีน้องชายสองคนคือ ระตูปาหยัง กับ ระตูประหมัน และโอรสชื่อวิหยาสะกำ ซึ่งพระองค์และมเหสีรักราวกับแก้วตา เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงทราบว่าวิหยาสะกำคลั่งไคล้ใหลหลงบุษบา ธิดาของท้าวดาหาซึ่งเพียงแต่เห็นรูปวาดเท่านั้นพระองค์ก็แต่งทูตไปสู่ขอนางทันทีครั้นถูกปฎิเสธเพราะท้าวดาหายกบุษบาให้เป็นคู่หมั้นของระตูจรกาไปแล้วท้าวกะหมังกุหนิงก็โกรธมากยกทัพไปตีกรุงดาหาเพื่อแย่งบุษบามาให้วิหยาสะกำแม้ว่าน้องทั้งสองจะพยายามพูดทัดทานไว้ ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด โดยปะกาศว่าจะยอมตายเพื่อลูก และเมื่อยกทัพไปถึงกรุงดาหา วิหยาสะกำถูกสังคามาระตาฆ่าตายทำให้ท้าวกะหมังกุหนิงแค้นมาก ขับม้าแกว่งหอกเข้ารุกไล่สังคามาระตาทันที แต่อิเหนาเข้าขวางไว้ และต่อสู้กันเป็นเวลานาน ในที่สุดท้าวกะหมังกุหนิงก็ถูกอิเหนาแทงด้วยกริชถึงแก่ความตาย
4.สังคามาระตาเป็นโอรสของระตูปักมาหงัน มีพี่สาวโฉมงามชื่อ มาหยารัศมี ซึ่งภายหลังได้เป็นมเหสีองค์หนึงของ อิเหนา สังคามาระตาเป็นชายรูปงาม มีความเฉลียวฉลาดรอบคอบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง มีความซื่อสัตย์และกล้าหาญ ชำนาญในการใช้ทวนเป็นอาวุธ เป็นคู่คิดคู่ปรึกษาและช่วยเตือนสติอิเหนาหลายครั้ง ระตูปักมาหงันนำสังคามาระตากับมาหยารัศมีมาถวายให้อิเหนา อิเหนานึกรักและเอ็นดูสังคามาระตาจึงรับเป็นน้อง ตั้งแต่นั้นสังคามาระตาก็ติดตามไปทุกหนทุกแห่งจนเติบโตเป็นหนุ่ม ครั้งที่อิเหนาปลอมตัวเป็นโจรป่ามิสารปันหยี สังคามาระตาก็ปลอมตัวเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า จะหรังวิสังกา ครั้นอิเหนาบวชเป็นฤาษี สังคามาระตาก็บวชและเปลี่ยนชื่อใหม่ว่ายาหยัง สังคามาระตาเป็นผู้เดียวที่นึกสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า อุณากรรณคือบุษบาปลอมตัวมา จนวางแผนให้ยาหงูทหารคนสนิทไปแอบดูตอนอุณากรรณอาบน้ำ และคราวที่สียะตราปลอมตัวเป็นชาวป่าชื่อย่าหรันมาอยู่ในกรุงกาหลัง สังคามาระตาก็จำได้และยังช่วยเหลือให้สียะตราได้เกนหลงหนึ่งหรัด(วิยะดา)เป็นภรรยาด้วย ภายหลังเมื่ออิเหนากลับไปครองกรุงกุเรปันแล้ว ก็ได้ส่งสังคามาระตากับมเหสีคือกุสุมาไปครองเมืองปักมาหงันแทนบิดาซึ่งชรามากแล้ว
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
1. การใช้อารมณ์ ในชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั้น ย่อมต้องประสบพบกับเรื่องที่ทำให้เราโมโห หรือทำให้อารมณ์ไม่ดี ซึ่งเมื่อเป็นดังนั้น เราควรจะต้องรู้จักควบคุมตนเอง เพราะเมื่อเวลาเราโมโห เราจะขาดสติยั้งคิด เราอาจทำอะไรตามใจตัวเองซึ่งอาจผิดพลาด และพลอยทำให้เกิดปัญหาตามมาอีก ฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง และเมื่อเรามีสติแล้วจึงจะมาคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งภายในเรื่องอิเหนาเราจะเห็นได้จากการที่ท้าวดาหาได้ประกาศยกบุษบาให้ใครก็ตามที่มาสู่ขอ โดยจะยกให้ทันที เพราะว่าทรงกริ้วอิเหนาที่ไม่ยอมกลับมาแต่งงานกลับบุษบาตามที่ได้หมั้นหมายกันไว้ การกระทำของท้าวดาหานี้ได้ก่อให้เกิดปัญหาและความวุ่นวายหลายอย่างตามมา และท้าวดาหานั้นยังกระทำเช่นนี้โดยมิได้สนใจว่าบุตรสาวของตนจะรู้สึกเช่นไร หรือจะได้รับความสุขหรือความทุกข์หรือไม่
2. การใช้กำลังในการแก้ปัญหา โดยปกติแล้ว เวลาที่เรามีปัญหาเราควรจะใช้เหตุผลในการแก้การปัญหานั้น ซึ่งถ้าเราใช้กำลังในการแก้ปัญหา นั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมา และอาจเป็นการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย ตัวอย่างเช่น ท้าวกะหมังกุหนิงที่ได้ส่งสารมาสู่ขอบุษบาให้กับวิหยาสะกำบุตรของตน เมื่อทราบเรื่องจากท้าวดาหาว่าได้ยกบุษบาให้กับจรกาไปแล้ว ก็ยกทัพจะมาตีเมืองดาหาเพื่อแย่งชิงบุษบา ซึ่งการกระทำที่ใช้กำลังเข้าแก้ปัญหานี้ก็ให้เกิดผลเสียหลายประการ ทั้งทหารที่ต้องมาต่อสู้แล้วพากันล้มตายเป็นจำนวนมาก สูญเสียบุตรชาย และในท้ายที่สุดตนก็มาเสียชีวิต เพียงเพราะต้องการบุษบามาให้บุตรของตน
3. การทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด หรือคำนึงถึงผลที่จะตามมา การจะทำอะไรลงไป เราควรจะคิดทบทวนหรือ ชั่งใจเสียก่อนว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ ทำแล้วเกิดผลอะไรบ้าง แล้วผลที่เกิดขึ้นนั้นก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่นหรือไม่ เกิดอย่างไรบ้าง เมื่อเรารู้จักคิดทบทวนก่อนจะกระทำอะไรนั้น จะทำให้เราสามารถลดการเกิดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรือสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ถ้าเราทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ก็มีแต่จะเกิดปัญหาตามมามากมาย เราจะเห็นตัวอย่างได้จากเรื่องอิเหนาในตอนที่อิเหนาได้ไปร่วมพิธีศพของพระอัยกีแทนพระมารดาที่เมืองหมันหยา หลังจากที่อิเหนาได้พบกับจินตะหราวาตี ก็หลงรักมากจนเป็นทุกข์ ไม่ยอมกลับบ้านเมืองของตน ไม่สนใจพระบิดาและพระมารดา ไม่สนใจว่าตนนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งมิได้คำนึงถึงผลที่จะตามมาจากปัญหาที่ตนได้ก่อขึ้น จากการกระทำของอิเหนาในครั้งนี้ก็ได้ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา
ประโยชน์และคุณค่าที่ได้รับจากเรื่อง
1.คุณค่าในด้านเนื้อเรื่อง บทละครเรื่องอิเหนา มีโครงเรื่องและเนื้อเรื่องที่สนุก โครงเรื่องสำคัญเป็นเรื่องการชิงบุษบาระหว่างอิเหนากับจรกา เรื่องความรักระหว่างอิเหนากับบุษบา เนื้อเรื่องสำคัญก็คือ อิเหนาไปหลงรักจินตะหรา ทั้งที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วซึ่งก็คือบุษบา ทำให้เกิดปมปัญหาต่างๆ
2. คุณค่าในด้านวรรณศิลป์
2.1 ความเหมาะสมของเนื้อเรื่องและรูปแบบ บทละครอิเหนาเป็นบทละครใน มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์ กลวิธีการดำเนินเรื่องจึงยึดรูปแบบอย่างเคร่งครัด อากัปกิริยาของตัวละครต้องมีสง่า มีลีลางดงามตามแบบแผนของละครใน โดยเฉพาะการแสดงศิลปะการร่ายรำจะต้องมีความงดงาม ภาษาที่ใช้เหมาะสมกับตัวละคร จะใช้ถ้อยคำไพเราะ แสดงออกถึงอารมณ์ของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นความอาลัยอาวรณ์ ความโกรธ ความรัก การประชดประชัน กระบวนกลอนตลอดจนเพลงขับร้องและเพลงหน้าพาทย์มีความไพเราะอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นบทละครในที่เพียบพร้อมด้วยรูปแบบของการละครอย่างครบถ้วน
2.2การบรรยายและการพรรณนามีความละเอียดชัดเจน ทำให้เกิดจินตภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉาก เหตุการณ์ สภาพบ้านเมือง ภูมิประเทศ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร ผู้อ่านเกิดความรู้สึกและความเกิดความเข้าใจในบทละครเป็นอย่างดี เนื่องจากการใช้โวหารเรียบเรียงอย่างประณีต เรียบง่าย และชัดเจน
2.3 การเลือกใช้ถ้อยคำดีเด่นและไพเราะกินใจ การใช้ถ้อยคำง่าย แสดงความหมายลึกซึ้ง กระบวนกลอนมีความไพเราะ เข้ากับบทบาทของตัวละคร โดยใช้กลวิธีต่างๆ ในการแต่ง
2.4 การใช้ถ้อยคำให้เกิดเสียงเสนาะ คำสัมผัสในบทกลอนทำให้เกิดเสียงเสนาะ มีทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร ทำให้กลอนเกิดความไพเราะ
3. คุณค่าในด้านความรู้
3.1 สังคมและวัฒนธรรมไทย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสร้างฉากและบรรยากาศในเรื่องให้เป็นสังคม วัฒนธรรม และบ้านเมืองของคนไทย แม้ว่าบทละครเรื่องอิเหนาจะได้เค้าเรื่องเดิมมาจากชวา ทำให้ผู้อ่านเข้าใจสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีไทยในพระราชสำนักและของชาวบ้านหลายประการ
4.คุณค่าทางด้านการละครและศิลปกรรม
4.1 การละคร บทละครเรื่องอิเหนาเป็นยอดของละครรำ เพราะใช้คำประณีต ไพเราะ เครื่องแต่งตัวละครงดงาม ท่ารำงาม บทเพลงขับร้องและเพลงหน้าพาทย์กลมกลืนกับเนื้อเรื่องและท่ารำ จึงนับว่าดีเด่นในศิลปะการแสดงละคร
4.2 การขับร้องและดนตรี วงดนตรีไทยนิยมนำกลอนจากวรรณคดีเรื่องอิเหนาไปขับร้องกันมาก เช่น ตอนบุษบาเสี่ยงเทียน และตอนประสันตาต่อนก เป็นต้น
4.3 การช่างของไทย ผู้อ่านจะได้เห็นศิลปะการแกะสลักลวดลายการปิดทองล่องชาด และลวดลายกระหนกที่งดงามอันเป็นความงามของศิลปะไทย ซึ่งจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ
คำศัพท์
1.กระยาหงัน สวรรค์
2.กิริณี ช้าง
3.จตุรงค์ กองทัพ4เหล่า คือ ช้าง ม้า รถ และพลเดินเท้า
4.ดัสกร ศัตรู
5.ตุนาหงัน หมั้นหมาย
6.สามนต์ เจ้าเมืองที่เป็นเมืองขึ้น
7.อัปรา ยอมแพ้
8.อึงอุตม์ เสียงดังมาก
9.ย่างทีสะเทิน การเดินอย่างเร็วของช้าง
วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551
งานภาษาไทย ย่อความเรื่อง "เวตาล "(คุณครูนพดล)
ณ ฝั่งแม่น้ำโคทาวรี มีพระมหานครแห่งหนึ่งตั้งอยู่นามว่า ประดิษฐาน ที่เมืองนี้ในสมัยบรรพกาลมีพระราชาธิบดีองค์หนึ่ง ทรงนามว่า ตริวิกรมเสน ได้ครองราไชศวรรย์มาด้วยความผาสุก พระองค์เป็นราชโอรสของพระเจ้าวิกรมเสนผู้ทรงเดชานุภาพเทียมท้าววัชรินทร์
ต่อมาได้มีนักบวชชื่อ ศานติศีล ได้นำผลไม้มาถวายทุกวันมิได้ขาด ซึ่งพระราชาแปลกใจ และได้ไปพบในคืนหนึ่งตามนัด ได้ถามถึงเหตุผลและเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ โยคีศานติศีลจอมเจ้าเล่ห์ได้ขอให้พระราชาตริวิกรมเสนนำเวตาลมาให้ตนเพื่อจะประกอบมหายัญพิธี
พระราชาผู้มีสัจจะเป็นมั่น ได้ไปนำเวตาลมาให้โยคีเจ้าเล่ห์ แต่เวตาลก็พยายามหน่วงเหนี่ยวด้วยการเล่านิทานทั้งสิ้น ๒๔ เรื่องด้วยกัน ซึ่งแต่ละเรื่องจะมีคำถามให้พระราชาตอบ โดยมีข้อแม้ว่า หากพระราชาทราบคำตอบแล้วไม่ตอบ ศีรษะของพระราชาจะต้องหลุดจากบ่า และหากพระราชาเอ่ยปากพูดเวตาลก็จะกลับไปสู่ที่เดิม
และก็เป็นดังนั้นทุกครั้ง ที่พระราชาตอบคำถามของเวตาล เวตาลก็จะหายกลับไปสู่ต้นไม้ที่สิงที่เดิม พระราชาก็จะเสด็จกลับไปเอาตัวเวตาลทุกครั้งไป จนเรื่องสุดท้ายพระราชาไม่ทราบคำตอบ ก็ทรงเงียบไม่พูด เวตาลพอใจในตัวพระราชามาก เพราะเป็นพระราชาผู้ไม่ย่อท้อ ผู้มีความกล้าหาญ ทำให้เวตาลบอกความจริงในความคิดของโยคีเจ้าเล่ห์ ว่าโยคีนั้นแท้จริงแล้ว ต้องการตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร โดยจะเอาพระราชาเป็นเครื่องสังเวยในการทำพิธี และอธิบายถึงวิธีกำจัดโยคีเจ้าเล่ห์
เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงโยคีตามที่นัดหมายไว้ ก็ปรากฎว่าโยคีได้เตรียมการทำอย่างที่เวตาลได้บอกกับพระราชาไว้ พระราชาจึงแก้โดยทำตามที่เวตาลได้อธิบายให้พระราชาฟัง พระราชาจึงได้ตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร และเวตาลได้บอกกับพระราชาตริวิกรมเสนว่า "ตำแหน่งนี้ได้มาเพราะความดีของพระองค์ ตำแหน่งนี้จะคอยพระองค์อยู่หลังจากที่ทรงเสวยสุขในโลกมนุษย์จนสิ้นอายุขัยแล้ว ข้าขอโทษในกาลที่แล้วมาในการที่ยั่วยวนประสาทพระองค์ แต่ก็ไม่ทรงถือโกรธต่อข้า บัดนี้ข้าจะถวายพรแก่พระองค์ ขอทรงเลือกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาเถิด" พระราชาก็ตรัสว่า "เพราะเหตุที่เจ้ายินดีต่อข้า และข้าก็ยินดีในความมีน้ำใจของเจ้าเช่นเดียวกัน พรอันใดที่ข้าจะปรารถนาก็เป็นอันสมบูรณ์แล้ว ข้าเพียงแต่อยากจะขออะไรสักอย่างเป็นที่ระลึกระหว่างข้ากับเจ้า นั่นก็คือนิทานที่เจ้ายกปัญหามาถามข้าถึงยี่สิบสี่เรื่อง และคำตอบของข้าก็ให้ไปแล้วเช่นเดียวกัน แลครั้งที่ยี่สิบห้าคือวันนี้ถือเป็นบทสรุป แสดงอวสานของเรื่อง ขอให้นิทานชุดนี้จงมีเกียรติแพร่กำจายไปในโลกกว้าง”
เวตาลก็สนองตอบว่า “ขอจงสำเร็จ โอ ราชะ บัดนี้จงฟังเถิด ข้าจะกล่าวถึงคุณสมบัติที่ดีเด่นของนิทานชุดนี้ สร้อยนิทานอันร้อยรัดเข้าด้วยกันดังสร้อยมณีสายนี้ ประกอบด้วยยี่สิบสี่เรื่องเบื้องต้น แลมาถึงบทที่ยี่สิบห้า อันเป็นบทสรุปส่งท้าย นับเป็นปริโยสาน นิทานชุดนี้จงเป็นที่รู้จักกันในนามของเวตาลปัญจวิงศติ (นิทานยี่สิบห้าเรื่องของเวตาล) จงมีเกียรติยศบันลือไปในโลก และนำความเจริญมาสู่ผู้อ่านทุกคน ใครก็ตามที่อ่านหนังสือแม้แต่โศลกเดียว หรือเป็นผู้ฟังเขาอ่านก็เช่นเดียวกัน จักรอดจากคำสาปทั้งมวล บรรดาอมนุษย์ทั้งหลาย มียักษ์ เวตาล กุษมาณฑ์ แม่มด หมอผีและรากษส ตลอดจนสัตว์โลกประเภทเดียวกันนี้ จงสิ้นฤทธิ์เดชเมื่อได้ยินใครอ่านนิทาน อันศักดิ์สิทธิ์นี้”
พระศิวะได้ฟังเรื่องของต่าง ๆ ของเวตาลจบก็กล่าวชื่นชมในองค์พระราชาตริวิเสนมาก ซึ่งพระศิวะได้สร้างจากอนุภาคโดยให้มาปราบอสูรคนร้ายต่าง ๆ เมื่อพระราชาตริวิกรมเสนได้เป็นจอมราชันแห่งวิทยาธรทั้งโลกและสวรรค์แล้ว ก็เกิดความเบื่อหน่าย หันไปบำเพ็ญทางธรรมจนบรรลุความหลุดพ้น